รอกตกปลาไฟฟ้ามักใช้แบตเตอรี่สำรองเพื่อจ่ายพลังงานที่จำเป็นต่อการใช้งาน รอกประเภทนี้เป็นที่นิยมสำหรับการตกปลาทะเลน้ำลึกและการตกปลาประเภทอื่นๆ ที่ต้องการรอกที่ต้องใช้กำลังมาก เนื่องจากมอเตอร์ไฟฟ้าสามารถรับแรงดึงได้ดีกว่าการหมุนคันเบ็ดด้วยมือ นี่คือสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับแบตเตอรี่สำรองสำหรับรอกตกปลาไฟฟ้า:
ประเภทของแบตเตอรี่
ลิเธียมไออน (Li-Ion):
ข้อดี: น้ำหนักเบา ความหนาแน่นพลังงานสูง อายุการใช้งานยาวนาน ชาร์จเร็ว
ข้อเสีย: มีราคาแพงกว่าแบบอื่น ต้องใช้เครื่องชาร์จเฉพาะ
นิกเกิล-เมทัลไฮไดรด์ (NiMH):
ข้อดี: ความหนาแน่นของพลังงานค่อนข้างสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า NiCd
ข้อเสีย: หนักกว่า Li-Ion เอฟเฟกต์หน่วยความจำอาจลดอายุการใช้งานลงได้หากไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม
นิกเกิล-แคดเมียม (NiCd):
ข้อดี: ทนทาน รองรับอัตราการระบายประจุที่สูง
ข้อเสีย: เอฟเฟกต์หน่วยความจำ หนักกว่า เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลงเนื่องจากมีแคดเมียม
คุณสมบัติหลักที่ต้องพิจารณา
ความจุ (mAh/Ah): ยิ่งความจุสูง อายุการใช้งานแบตเตอรี่ก็จะยาวนานขึ้น เลือกได้ตามระยะเวลาที่คุณจะตกปลา
แรงดันไฟฟ้า (V): จับคู่แรงดันไฟฟ้าให้ตรงกับความต้องการของรีล
น้ำหนักและขนาด: สำคัญต่อความสะดวกในการพกพาและการใช้งาน
เวลาในการชาร์จ: การชาร์จที่เร็วขึ้นอาจสะดวกแต่ก็ต้องแลกมาด้วยอายุการใช้งานแบตเตอรี่
ความทนทาน: การออกแบบกันน้ำและกันกระแทกเหมาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพแวดล้อมการตกปลา
ยี่ห้อและรุ่นยอดนิยม
Shimano: ขึ้นชื่อในด้านอุปกรณ์ตกปลาคุณภาพสูง รวมถึงรอกไฟฟ้าและชุดแบตเตอรี่ที่เข้ากันได้
Daiwa: นำเสนอรอกไฟฟ้าและแบตเตอรี่ที่ทนทานหลากหลายรุ่น
มิยะ : เชี่ยวชาญด้านรอกไฟฟ้าสำหรับงานหนัก สำหรับการตกปลาทะเลน้ำลึก
เคล็ดลับการใช้งานและการดูแลรักษาแบตเตอรี่
ชาร์จอย่างถูกต้อง: ใช้เครื่องชาร์จที่ผู้ผลิตแนะนำและปฏิบัติตามคำแนะนำในการชาร์จเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายต่อแบตเตอรี่
การเก็บรักษา: เก็บแบตเตอรี่ไว้ในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงการเก็บแบตเตอรี่ที่ชาร์จเต็มหรือหมดประจุเป็นเวลานาน
ความปลอดภัย: หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับอุณหภูมิที่สูงเกินไป และจัดการด้วยความระมัดระวังเพื่อป้องกันความเสียหายหรือไฟฟ้าลัดวงจร
การใช้งานปกติ: การใช้งานปกติและการหมุนเวียนพลังงานอย่างถูกต้องสามารถช่วยรักษาสุขภาพและความจุของแบตเตอรี่ได้
เวลาโพสต์: 14 มิ.ย. 2567