แบตเตอรี่แบบวงจรลึกสำหรับเรือได้รับการออกแบบมาให้จ่ายพลังงานได้คงที่เป็นเวลานาน จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในทะเล เช่น มอเตอร์ทรอลลิ่ง เครื่องหาปลา และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ บนเรือ แบตเตอรี่แบบวงจรลึกสำหรับเรือมีหลายประเภท โดยแต่ละประเภทมีคุณสมบัติเฉพาะตัว ดังนี้
1. แบตเตอรี่ตะกั่วกรดแบบน้ำท่วม (FLA):
- คำอธิบาย: แบตเตอรี่แบบวงจรลึกแบบดั้งเดิมที่มีอิเล็กโทรไลต์เหลว
- ข้อดี: ราคาไม่แพง หาซื้อได้ทั่วไป
- ข้อเสีย: ต้องบำรุงรักษาเป็นประจำ (ตรวจสอบระดับน้ำ) อาจหกและปล่อยก๊าซออกมา
2. แบตเตอรี่แผ่นดูดซับแก้ว (AGM):
- คำอธิบาย: ใช้แผ่นไฟเบอร์กลาสเพื่อดูดซับอิเล็กโทรไลต์ ทำให้ป้องกันการหกเลอะได้
- ข้อดี: ไม่ต้องบำรุงรักษา ป้องกันของเหลวหกเลอะ ทนทานต่อแรงสั่นสะเทือนและแรงกระแทกได้ดีกว่า
- ข้อเสีย: มีราคาแพงกว่าแบตเตอรี่ตะกั่วกรดแบบน้ำท่วม
3. แบตเตอรี่เจล:
- คำอธิบาย : ใช้สารคล้ายเจลเป็นอิเล็กโทรไลต์
- ข้อดี: ไม่ต้องบำรุงรักษา ป้องกันการรั่วไหล ทำงานได้ดีในรอบการปล่อยประจุลึก
- ข้อเสีย: ไวต่อการชาร์จไฟเกิน ซึ่งอาจทำให้มีอายุการใช้งานลดลง
4. แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน:
- คำอธิบาย: ใช้เทคโนโลยีลิเธียมไอออน ซึ่งแตกต่างจากเคมีตะกั่วกรด
- ข้อดี: อายุการใช้งานยาวนาน น้ำหนักเบา จ่ายพลังงานสม่ำเสมอ ไม่ต้องบำรุงรักษา ชาร์จเร็ว
- ข้อเสีย : ต้นทุนเริ่มต้นสูง.
ข้อควรพิจารณาหลักสำหรับแบตเตอรี่ Deep Cycle ทางทะเล:
- ความจุ (ชั่วโมงแอมป์, Ah): ยิ่งความจุสูงเท่าไร เวลาการทำงานก็จะยิ่งนานขึ้นเท่านั้น
- ความทนทาน: ความต้านทานต่อการสั่นสะเทือนและแรงกระแทกเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสภาพแวดล้อมทางทะเล
- การบำรุงรักษา: ตัวเลือกแบบไม่ต้องบำรุงรักษา (AGM, Gel, Lithium-Ion) โดยทั่วไปจะสะดวกกว่า
- น้ำหนัก: แบตเตอรี่ที่เบากว่า (เช่น ลิเธียมไออน) อาจเป็นประโยชน์สำหรับเรือขนาดเล็กหรือเพื่อความสะดวกในการควบคุม
- ต้นทุน: ต้นทุนเริ่มต้นเมื่อเทียบกับมูลค่าในระยะยาว (แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมีต้นทุนเริ่มต้นที่สูงกว่าแต่มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า)
การเลือกประเภทแบตเตอรี่รอบลึกสำหรับเรือที่ถูกต้องจะขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของคุณ รวมถึงงบประมาณ ความต้องการในการบำรุงรักษา และอายุการใช้งานที่ต้องการของแบตเตอรี่

เวลาโพสต์ : 22 ก.ค. 2567